การปรากฎการณ์ของซีรีส์ที่ผ่านมา คงปฎิเสธไม่ได้ว่าแนวคิดและซีรีส์ “ Move to Heaven ” ได้สร้าง “กระแสใหม่” ทั้งในเกาหลีและระดับโลก ด้วยการเปิดมุมมองที่ลึกซึ้งและแปลกใหม่ต่อ “ ความตาย ” และ “ การจัดการหลังความตาย ” ซึ่งเคยเป็นเรื่องที่หลายคนหลีกเลี่ยงหรือมองว่าไม่น่าพูดถึง

และหลายคนเพิ่งรู้ว่ามี อาชีพ Trauma Cleaner จริงในโลกนี้ โดยเฉพาะในเกาหลี ญี่ปุ่น และประเทศตะวันตก มีบริษัทที่รับจัดการบ้านของผู้วายชนม์ด้วยความเคารพ ซึ่งในไทยเองก็เริ่มมีผู้พูดถึงมากขึ้นเช่นกัน

แต่สำหรับ KEPT นั้น มองว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งทางเรามีบริการทำความสะอาด เคลียร์ของอยู่แล้ว การทำงานไม่ใช่แค่การ “ ทำความสะอาดบ้านของผู้เสียชีวิต ” แต่คือการ จัดการสิ่งของของผู้ล่วงลับด้วยความเคารพ จัดเก็บของ คัดแยกของเพื่อนำสิ่งของนั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

ทางเรามีการนำของต่างๆเหล่านี้ไปแจกจ่าย บริจาคให้กับมูลนิธิต่างๆ ตามความเหมาะสม หากสิ่งไหนไม่ควรเก็บ ก็จะมีวิธีการกำจัดได้อย่างถูกวิธี

ให้เหมาะกับคำที่ว่า “ในบ้านที่เงียบงันนั้น ยังมีเสียงของความรัก”

การทำความสะอาดบ้านของผู้เสียชีวิต คือการจัดระเบียบความรักที่ยังไม่ทันเอ่ยคำลา

เมื่อเราก้าวเข้าสู่บ้านที่มีคนเสียชีวิต…สิ่งแรกที่สัมผัสได้ไม่ใช่กลิ่น ไม่ใช่ความรก ไม่ใช่ความเงียบ

แต่มันคือ “ความว่าง” — ว่างของการไม่มีอีกแล้ว ว่างของคนที่เคยนั่งตรงนี้ กินข้าวตรงนี้ เปิดเพลงฟังตรงนี้

และว่างของคำพูดที่เขาไม่มีโอกาสได้พูดเป็นครั้งสุดท้าย

การทำความสะอาดบ้านผู้เสียชีวิต...จึงไม่ใช่แค่การจัดการ "สิ่งของ"

แต่มันคือการจัดการ “ความรู้สึกที่หลงเหลืออยู่”

เราหยิบจับของทุกชิ้นด้วยความเคารพ เราไม่รู้ว่าสมุดเล่มเก่าที่มุมโต๊ะนั้นคือไดอารี่

เราไม่รู้ว่าเสื้อที่ขาดแล้วตัวนั้น เคยเป็นเสื้อที่ใส่ไปพบคนรักครั้งสุดท้าย

เราจึงค่อย ๆ หายใจลึก แล้วถามตัวเองเสมอว่า

"ของชิ้นนี้...มีเรื่องราวไหม?"

บางทีเราจะเจอจดหมายที่ไม่ถูกส่ง บางทีเราจะเจอภาพถ่ายที่ซ่อนไว้หลังตู้

บางที...แค่แหวนวงเดียวที่ตกอยู่ในลิ้นชัก ก็ทำให้คนทั้งครอบครัวได้เข้าใจกันอีกครั้ง

ในบางบ้าน เราเช็ดคราบเลือด ในบางบ้าน เราเช็ดน้ำตาของคนเป็น

และในทุกบ้าน เราพยายามเช็ด “ความเสียใจ” ออกไปเบา ๆ ไม่ใช่เพื่อให้ลืม

แต่เพื่อให้ความรักที่ยังค้างอยู่… ได้เปลี่ยนเป็นแรงเบา ๆ

ให้คนที่ยังอยู่ “ลุกขึ้นเดินต่อ”

บ้านที่ผู้ตายอยู่ = พื้นที่ของชีวิต ความทรงจำ และการรอการปลดปล่อย

การทำความสะอาดบ้านที่มีคนเสียชีวิต ( โดยเฉพาะถ้าเสียชีวิตในบ้าน ) ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ มีระบบ และเต็มไปด้วยความเคารพต่อผู้วายชนม์ รวมถึงดูแลความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานด้วย เพราะอาจมีความเสี่ยงด้านสุขภาพหรือสภาพแวดล้อม

การทำความสะอาดพื้นที่บ้านผู้เสียชีวิตจึงเป็นมากกว่า “การเก็บกวาด”

เมื่อมีผู้เสียชีวิตในบ้าน หน้าที่ของผู้ดูแลบ้านหลังนั้น ไม่ใช่แค่การ “ทำให้สะอาด” แต่คือการ “ทำให้บ้านสงบ”

สิ่งของทุกชิ้นไม่ได้เป็นแค่ขยะหรือของใช้ แต่กลายเป็นตัวแทนของชีวิตหนึ่งที่เคยมีอยู่

KEPT ไม่ใช่แค่ล้างคราบ/เก็บขยะ ... แต่ให้ “บ้านกลับมาสงบ”

แต่ KEPT ทำความสะอาด + ขจัดกลิ่น + ฆ่าเชื้อโรค

เปรียบเหมือน “ ให้บ้านได้หายใจอีกครั้ง ” สำหรับลูกหลานหรือผู้อยู่อาศัยต่อไป

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการผู้ช่วย ... โปรดเรียกใช้บริการ KEPT by Klaakit