บริการซักคราบ ทำความสะอาด พ่นฆ่าเชื้อ ดูดไรฝุ่น ที่นอน โซฟา ม่าน พรม KEPT ผู้ให้บริการด้านความสะอาดแบบครบวงจร ขอมอบบริการสุดวิเศษที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตยามพักผ่อนให้คุณ ด้วยบริการรับซักทำความสะอาดที่นอน ดูดกำจัดไรฝุ่น ฆ่าเชื้อ เคลียร์กลิ่นสาบ คราบสกปรกฝังลึกบน ฟูก เครื่องนอน โซฟา พรม และ ผ้าม่าน โดยเราได้จัดเตรียมทีมงานคุณภาพ พร้อมทั้งเครื่องมือนวัตกรรม และ สเปรย์น้ำยาฆ่าเชื้อขจัดคราบ ที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงในอเมริกามาใช้ในการดูแลแก้ปัญหา จัดการทำความสะอาด ฟูกที่นอน โซฟา ผ้าม่าน พรม ของคุณเพื่อปกป้องคนที่คุณรัก ให้ปลอดภัยพ้นจาก ปัญหาไรฝุ่นที่เกิดจากจากคราบเหงื่อไคล และ เชื้อโรคจากคราบฝังลึก เช่น คราบเลือด กลิ่นสาบคราบน้องๆสัตว์เลี้ยง หมึกปากกา หรือ ชากาแฟ เป็นต้น โดยคุณจะสัมผัสถึงความแตกต่างได้ตั้งแต่ครั้งแรกหลังใช้บริการ. ทำไมเราต้องดูแลให้ความสำคัญกับความสะอาดของที่นอน โซฟา ผ้าม่าน เนื่องจาก ที่นอน โซฟา ผ้าม่าน หรือ พรม มีส่วนผสมที่มีลักษณะเป็นเส้นใยที่สามารถกักเก็บฝุ่นหรือคราบเปื้อนฝังแน่นที่อาจเกิดจากคราบเหงื่อไคล กลิ่นอับ ฝุ่นละออง หรือ คราบเลอะเปรอะเปื้อนได้เป็นอย่างดี ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นแหล่งอาหารและแหล่งกำเนิดของเชื้อโรค ไรฝุ่น มิหนำซ้ำ ที่นอนหรือโซฟา ยังเป็นพื้นที่ที่เราคลุกคลี เกลือกกลิ้ง วันละกว่า 8 ชั่วโมง ทำให้มีโอกาสที่จะสัมผัส หรือ สูดดมเข้าไปโดยไม่รู้ตัว จนอาจก่อให้เกิดเป็นโรคร้าย ภูมิแพ้ต่างๆได้ ซึ่งอาจแบ่งสิ่งสกปรกหรือปัญหากวนใจ ออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ ดังนี้ ปัญหาไรฝุ่น ไรฝุ่น คือ แมลงขนาดเล็กที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มี 8 ขา สามารถอาศัยได้ในทุกสภาพอากาศ แต่จะเติบโตได้ดีในอุณหภูมิอุ่นชื้นเจ้าไรฝุ่นนี้เป็นหนึ่งในสาเหตุของโรคภูมิแพ้ และ เป็นตัวกระตุ้น ให้เกิดอาการของโรคหอบหืดตามมา ไรฝุ่นจะมีขนาดเล็กมาก มักอาศัยอยู่ตาม ฟูก ที่นอน หมอน ผ้าห่ม พรม โซฟา เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากเส้นใย ผ้าม่าน เป็นต้น โดยอาศัยกินผิวหนังของมนุษย์เป็นอาหาร เมื่อเรามีการสัมผัสหรือหายใจเข้าไปจะทำให้เกิดอาการแพ้ไรฝุ่นได้ เนื่องจากเราต้องนอนอยู่บน ฟูก ที่นอน อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ทุกวัน ที่นอนจึงเป็นแหล่งสะสมของเซลล์ผิวหนังของเรา เมื่อไรฝุ่นมากินเซลล์ผิวหนังเราเป็นอาหาร ก็จะปล่อย มูล หรือขี้เอาไว้ และ ยังมีการลอกคราบหลายครั้ง จนกว่าจะโตเต็มวัยเพื่อวางไข่ต่อไปอีกด้วย ดังนั้น เราจึงไม่ควรนิ่งนอนใจที่จะปล่อยให้เกิดการหมักหมม ของเศษซากไรฝุ่น ทั้งที่มีชีวิต และ กากมูลเอาไว้จนกลายเป็นปัญหาลุกลามต่อสุขภาพของคนในครอบครัวได้ ปัญหาคราบเลอะ คราบเปื้อนฝังลึก คราบเลอะ ไม่ว่าจะเป็นคราบที่เกิดจากอุบัติเหตุที่ไม่ได้ตั้งใจ เช่น คราบชา กาแฟ อาหารหกเลอะ หมึกปากกา หรือแม้กระทั่ง คราบที่เกิดจากมนุษย์ และ สัตว์เลี้ยง เช่น ปัญหาประจำเดือน คราบฉี่ โคลนไคลต่างๆ ถ้าหากมีการสัมผัสหกเลอะเปื้อนบนผ้า หรือ วัสดุชิ้นงานที่มีเส้นใยเป็นองค์ประกอบ ถึงแม้จะรีบเช็ดถูทำความสะอาดเพียงใด แต่ถ้าไม่ได้ทำอย่างถูกต้องครบถ้วนตามวิธีการจนลึกถึงเส้นใยแล้ว ล้วนแล้วแต่จะสร้างปัญหาทิ้งร่องรอยให้เห็นเป็นที่กวนใจ ตอกย้ำความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้น และยิ่งถ้าทิ้งไว้ให้เนิ่นนาน อาจไม่สามารถขจัดออกได้ จนกลายเป็นแหล่งอาหาร ที่แฝงตัวของเหล่าบรรดาเชื้อโรค หรือ เชื้อแบคทีเรียที่มองไม่เห็น ทำให้อายุการใช้งานของเนื้อผ้าเส้นใยของที่นอน โซฟา พรม หรือ ผ้าม่าน เสื่อมถอยลดลงไปด้วย ปัญหากลิ่นเหม็นสาบ กลิ่นอับ สำหรับบางคนปัญหาเรื่องกลิ่นสาบ กลิ่นอับ หรือแม้กระทั่งกลิ่นแอมโมเนียจากปัสสาวะของน้องๆสัตว์เลี้ยงผู้น่ารักก็นับเป็นสิ่งกวนใจที่ร้ายแรงจนสร้างปัญหากับคุณภาพชีวิตยามพักผ่อนได้อย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งกลิ่นเหล่านั้นล้วนแอบแฝงไปด้วยเชื้อโรค ถ้าสูดดมเข้าไปเป็นระยะเวลานานย่อมส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจอย่างแน่นอน จะเห็นได้ว่าการที่เราปล่อยให้ ที่นอน ฟูก โซฟา พรม ผ้าม่าน ให้เกิดความสกปรกไม่ดูแลอาจสร้างปัญหาต่อสุขภาพได้ดดยไม่รู้ตัว ดังนั้น เราต้องหมั่นดูแลรักษาความสะอาดที่นอน โซฟา ผ้าม่าน พรม อยู่เป็นประจำหรืออย่างน้อยก็ควรเปิดห้องระบายอากาศและให้ได้มีโอกาสสัมผัสกับแสงแดดอยู่เป็นประจำ แต่การกระทำเพียงเท่านั้นก็อาจจะเป็นเพียงแค่การบรรเทาระดับหนึ่ง ทางที่ดีที่สุดจึงควรให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เข้ามาดูแลแก้ไขปัญหานี้ จึงจะเหมาะสมที่สุด .... เกายังไงให้ถูกที่คัน รู้ให้ทันเจ้าวายร้าย .... จากปัญหาที่พบเจอตามที่ได้กล่าวไว้ด้านบนแล้วนั้น หากเราต้องการที่จะแก้ไขปัญหานั้นๆให้หมดไป ต้องอาศัยความเข้าใจโดยผู้ที่มีความชำนาญและประสบการณ์ และ เลือกใช้กรรมวิธีแก้ไขปัญหาให้ถูกต้องเหมาะสมเท่านั้น ซึ่งทาง KEPT ที่มีประสบการณ์และชำนาญงานมายาวนานต่อเนื่อง จึงได้จำแนกและะกำหนดแนวทางปฏิบัติสำหรับการแก้ปัญหาดังกล่าวออกเป็น 5 กระบวนวิธี ดังนี้ 1) การดูดกำจัดไรฝุ่น (Dust mite Vacuum) เป็นการนำภูมิปัญญาแนวคิดวิธีดูแลรักษาความสะอาดฟูก เครื่องนอน หรือ โซฟา ด้วยการใช้ไม้ตีฟาดอย่างแรงลงไปบนพื้นผิว เพื่อทำให้เศษฝุ่นละออง หรือ เศษสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่บนพื้นผิวปลิวฟุ้งกระจายพ้นออกไป แต่ด้วยวิธีการดังกล่าวอาจทำให้ยังมีโอกาสตกค้างหลงเหลือของละอองฝุ่นอยู่ในเส้นใย รวมถึงเศษฝุ่นละอองที่ฟุ้งกระจายลอยในอากาศ หากมีการสูดดมเข้าไปในร่างกายอาจทำให้เกิดเป็นสภาวะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งด้วยความก้าวหน้าทางวิทยาการและการพัฒนาทางการแพทย์ทำให้มีการคิดค้น เครื่องดูดกำจัดไรฝุ่น ซึ่งอาศัยหลักการแนวคิดดังกล่าวมากระตุ้นให้เศษฝุ่นละอองหรือตัวไรฝุ่นที่แฝงตัวอยู่ในเส้นใยให้หลุดลอยขึ้นมาบนพื้นผิวด้านบน และถูกดูดเก็บเข้ามาในถังกักเก็บ ซึ่งเครื่องดูดไรฝุ่นที่เราเลือกใช้ เป็นนวัตกรรม hepa filter ระบบกักเก็บฝุ่นด้วยน้ำ ที่ได้รับการยอมรับจากอเมริกาว่าสามารถกักเก็บฝุ่นได้โดยไม่ก่อให้เกิดมลภาวะและฝุ่นละอองตกค้างในอากาศ แถมยังมีประสิทธิภาพที่ช่วยฟอกอากาศในบริเวณใกล้เคียงให้กลายเป็นอากาศบริสุทธิ์ แตกต่างจากเครื่องดูดไรฝุ่นรุ่นพื้นฐานทั่วไปอีกด้วย ลักษณะงานที่เหมาะสมกับกระบวนวิธี คือ ที่นอน ฟูก โซฟา พรม ผ้าม่าน หรือ ชิ้นงานต่างๆที่ไม่มีคราบเปื้อน แต่อาจผ่านการใช้งานมาช่วงระยะหนึ่งจนเกิดการสะสมของฝุ่นละอองแล้ว หรือ เริ่มสังเกตุได้ถึงอาการผดผื่นคันหลังจากการคลุกคลีสัมผัส ซึ่งโดยปกติทั่วไปสำหรับพื้นที่อยู่อาศัยในระบบปิดแบบปัจจุบัน ควรมีการดูดกำจัดไรฝุ่นอย่างน้อยทุกๆ 4-6 เดือน/ครั้ง 2) การซักทำความสะอาด (Washing) เป็นการทำความสะอาดที่มุ่งเน้นความสะอาดโดยรวมของชิ้นงานในกรณีทีเกิดความหมองเก่า ตามสภาพการใช้งานปกติทั่วไป ซึ่งการซักทำความสะอาดฟูก ที่นอน พรม ผ้าม่าน ที่มีลักษณะเป็นเส้นใยเนื้อผ้าจะมี 2 รูปแบบ คือ การซักเปียก กับ การซักแห้ง ซึ่งการทำงานของเรา จะมุ่งเน้นไปที่ รูปแบบการซักแห้ง เป็นแนวทางปฏิบัติหลักก่อนเนื่องจากวิธีนี้มีความสะดวกและเหมาะสมกับขนาดของชิ้นงานและพื้นที่การทำงาน รูปแบบการทำงานวิธีนี้ไม่เน้นการใช้น้ำในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น จะใช้น้ำเป็นเพียงแค่ตัวนำแชมพูในการฉีดพรมลงให้ทั่วเส้นใยบนเนื้อผ้าก่อนจะทำการดูดกลับโดยเร็วด้วยพลังงานลม ซึ่ง KEPT ยังเพิ่มประสิทธิภาพการแทรกซึมของน้ำยาแชมพูให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดด้วยการใช้ น้ำร้อน เป็นตัวนำน้ำยาแชมพูแทนระบบนี้ เรียกว่า ระบบไฮบริด เอ็กแทร็คชั่น (Hybrid extraction) ลักษณะงานที่เหมาะสมกับกระบวนวิธี คือ ที่นอน ฟูก โซฟา พรม ผ้าม่าน หรือ ชิ้นงานต่างๆ ที่มีความหม่นหมองจากการเก็บ ฝุ่นละออง การใช้งานปกติทั่วไป หรือ แม้กระทั่งในกรณีที่อาจมีคราบเลอะเปื้อนบ้างเล็กน้อยแต่ไม่ใช่คราบลึกฝังแน่นที่ซึมลึกไปจนถึงในเส้นใยเนื้อผ้า เป็นต้น ซึ่งโดยปกติแล้วเพื่อสุขภาพการพักผ่อนที่ดี และยืดอายุที่นอนให้ดูใหม่อยู่เสมอ จึงควรมีการซักทำความสะอาดที่นอน หรือ โซฟา อย่างน้อย 2 ปีครั้ง 3) การสปอตขจัดคราบ (Remove Stains) หมายถึงการขจัดจัดการคราบเปื้อน ที่ฝังลึกเข้าสู่เส้นใยและเกาะติดแน่นจนเกิดคราบรอยเป็นดวง วง และไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยกระบวนการซักพื้นฐานได้ ซึ่งพวกคราบเหล่านี้มักจะเกิดจากปฏิกริยาทางเคมีเป็นตัวกระทำ เช่น คราบหมึกปากกา คราบเลือด คราบชากาแฟ คราบน้ำลาย หรือ คราบยางไขมันต่างๆ เป็นต้น ซึ่งเราเองจำเป็นต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีทางเคมีวิทยาศาสตร์โดยใช้เคมีที่เหมาะสมเฉพาะทางมาทำปฏิกริยากับคราบดังกล่าวอย่างถูกต้อง แล้วจึงค่อยทำการเช็ดซักล้างออกอีกครั้งด้วยน้ำสะอาด ซึ่งวิธีการนี้อาจจะสามารถนำคราบเปื้อนฝังลึกออกได้ทั้งหมดหรือแค่เจือจางลดลงบางส่วน ก็ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการติดคราบ และ สภาพของเส้นใยชิ้นงานด้วย ลักษณะงานที่เหมาะสมกับกระบวนวิธี คือ บรรดาที่นอน โซฟา พรม ผ้าม่าน ที่มีคราบเปื้อนที่มีลักษณะเป็น จุด ดวง วง หรือ เป็นปื้นแผ่กระจายในพื้นที่บริเวณหนึ่งของชิ้นงาน อันเกิดจาก เลือด สารเคมี ฉี่ หมึก หรือ ไขมันอาหาร หกหยดเลอะใส่โดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งแม้กระทั่งจะเช็ดออกทำความสะอาดเบื้องต้นแล้ว แต่ก็ยังคงทิ้งคราบลงบนเส้นใยไว้ให้เห็นอย่างชัดเจนได้ 4) การสตรีมไอน้ำ ฉีดพ่นฆ่าเชื้อ บนพื้นผิว (Strem & Spray) กระบวนวิธีนี้คือการนำสเปรย์ละอองฝอยของน้ำหรือน้ำยาฉีดพ่นกระจายบนพื้นผิวเพื่อให้ละอองฝอยเหล่านั้นไปจับตัวทำปฏิกริยากับ เชื้อโรค คราบเปื้อนไม่ฝังลึก หรือ สิ่งแปลกปลอมขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าจนทนไม่ได้แล้วสลายตัวหายไป หรือ ช่วยให้พื้นผิว เส้นใย ของชิ้นงานนั้นไม่เหมาะแก่การที่จะแฝงตัวเป็นที่อยู่อาศัยจนสร้างปัญหากับมนุษย์หรือสัตว์เลี้ยง ซึ่งกระบวนการนี้แบ่งออกเป็น 2 วิธีหลัก คือ 1) การใช้ความร้อนที่มีอุณหภูมิสูงเกิน 120 องศาเซลเซียส จนกลายเป็น แรงดันไอน้ำ ในการอบพ่นสลายเชื้อโรค ปรสิตต่างๆ วิธีนี้เรียกว่าวิธี สตรีมไอน้ำ(Hot Stream) 2) การสเปรย์ฉีดพ่น ฆ่าเชื้อ ลงบนพื้นผิวเส้นใยด้วย น้ำยาออแกนิค เพื่อป้องกันพื้นผิว เส้นใย ไม่ให้เหมาะที่จะเป็นแหล่งฟักตัวของเชื้อโรค ไรฝุ่น และ กำจัดเชื้อโรค ไรฝุ่น ที่แฝงตัวอยู่ก่อนแล้ว จนฝ่อหายหมดไป วิธีนี้เรียกว่า การสเปรย์ฆ่าเชื้อ(Spray Organic) ลักษณะงานที่เหมาะสมกับกระบวนวิธี เราจะใช้แนวทางนี้ในกรณีที่ลูกค้าอยากรู้สึกสบายใจ ปลอดภัยจากเชื้อโรค ปรสิต ที่อาจแฝงตัวอยู่ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงกับตำแหน่งการจัดวางชิ้นงาน หรือแม้กระทั่งชิ้นงานที่มีโอกาศสัมผัสเชื้อโรคอันเกิดจากการเลอะเปื้อน หมักหมมจากเชื้อแบคทีเรีย เหงื่อไคล ที่ติดตัวปนเปื้อนมากับเสื้อผ้า ร่างกายเราหลังจากทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬาภายนอกมา เช่น เบาะรถยนต์ เก้าอี้สำนักงาน โซฟากำมะหยี่ เป็นต้น 5) การอบโอโซน ดับกลิ่นในอากาศ (Ozone Baking) เป็นนวัตกรรมการฆ่าเชื้ออย่างหนึ่งที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อรุนแรงกว่าคอลลีนมากถึง 3,125 เท่า โดยมนุษย์สามารถผลิตก๊าซโอโซนขึ้นมาเองได้ นอกจากที่มีอยู่ในธรรมชาติแล้ว จึงวิจัยพัฒนานำก๊าซโอโซนที่ได้มาอบฆ่าเชื้อไวรัส เชื้อรา แบคทีเรีย หรือกลิ่นอับหมักหมมในอากาศ โดยที่โอโซนจะเข้าไปจับโมเลกุลของสารปนเปื้อนและทำการย่อยสลาย ทำลายโดยการเปลี่ยนโครงสร้างของสารนั้น ทั้งนี้โอโซนเป็นก๊าซที่มีโครงสร้างเสถียร ซึ่งหลังจากทำปฏิกิริยา โอโซนจะแปรสภาพกลับเป็นก๊าซออกซิเจน จึงมั่นใจได้ว่าโอโซนจะไม่เป็นอันตรายหรือส่งผลกระทบใดๆ ต่อมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม ในการนำโอโซนมาใช้ไม่ว่าจะเพื่ออะไร ก็มีข้อควรระวังเล็กน้อย เช่น ไม่ควรใช้ในปริมาณที่มากจนเกินไป , ไม่ควรใช้ในขณะที่มี คน สัตว์ สิ่งมีชีวิตอยู่ในห้องระบบปิด หรือ มีการสัมผัสโดยตรง เป็นต้น ลักษณะงานที่เหมาะสมกับกระบวนวิธี การใช้โอโซนเหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการความปลอดภัยจากเชื้อโรค และ ปัญหากลิ่นอับ ที่ติดตามพื้นผิว ผนัง หรือ ลอยอยู่ในพื้นที่ห้องบริเวณและชั้นอากาศโดยรอบ ซึ่งเกิดจาก ความอับชื้น การสูบบุหรี่ หรือ เชื้อโรคติดต่อจากมนุษย์และสัตว์ เช่น ห้องนอน โรงหนัง ห้องรับแขก โรงแรม โรงพยาบาล และ สถานบริการต่างๆเป็นต้น การทำงานที่ใส่ใจ และ ถูกสุขลักษณะอนามัย KEPT คือ บริษัทผู้ให้บริการด้านการทำความสะอาด ซักที่นอน ซักโซฟา ซักพรม ซักผ้าม่าน โดยทีมงานกำจัดไรฝุ่นซักขจัดคราบของ KEPT มีกระบวนการทำงานที่ค่อนข้างใส่ใจ พิถีพิถัน เพื่อให้มั่นใจว่า จะสามารถส่งคืนความสุข ความปลอดภัย สุขลักษณะด้านสาธารณสุขอย่างแท้จริง เพื่อเสริมสร้างคุณภาพการพักผ่อน ให้กับลูกค้าทุกท่านได้เป็นอย่างดีที่สุด โดยเรามีกระบวนการทำงานพื้นฐาน ดังนี้ เริ่มจากการประเมินปัญหาของชิ้นงาน ว่าเหมาะสมสำหรับการดูดไรฝุ่น สตรีมฆ่าเชื้อโรคทั่วไป หรือ จำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการซัก ขจัดคราบ เพื่อชะล้างคราบ สิ่งปนเปื้อน ที่เกาะติดพื้นผิวสัมผัส ให้ออกสะอาดอย่างหมดจดจนถึงเส้นใย จากนั้นจึงทำการอบด้วยลำแสงยูวี (UV Sterilizer) เข้มข้นที่มีมาตราฐานใกล้เคียงกับการฆ่าเชื้อที่ใช้ในวงการแพทย์ เพื่อกำจัดตัวไร แมลงขนาดเล็กที่เกาะตามเส้นใยเพื่อกินโปรตีนสิ่งสกปรกบนเส้นใย กรณีดูดกำจัดไรฝุ่น ทางเจ้าหน้าที่จะเริ่มดูดเก็บเศษซากไรฝุ่น ด้วยเครื่องดูดไรฝุ่น เฉพาะทาง ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอเมริกา โดยอาศัยหลักการสั่นกระเพื่อมอย่างรุนแรง มากกว่า 20,000 รอบ/นาที เพื่อกระตุ้นให้เศษซากไรฝุ่นที่เกาะตามเส้นใย หรือ ตกค้างอยู่ในชั้นที่ลึกลงไปด้านใต้ ได้หลุดร่อนเข้าสู่ถังดักระบบน้ำ โดยที่ไม่ก่อให้เกิดการฟุ้งกระจาย ของฝุ่นละอองในอากาศ จนเกิดให้เป็นกลุ่มละอองชุดใหม่ โดยจะสังเกตุไดจากสีน้ำที่จะดำเข้มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าหากว่าการดูดกำจัดไรฝุ่นเพียงพอต่อการแก้ปัญหาชิ้นงาน ทางทีมงานจะทำการดูดไรฝุ่นออกมาซ้ำๆ ประมาณ 2-3 รอบ จนกว่าน้ำที่กักเก็บเศษซากสิ่งสกปรก จะจางใสจนเห็นได้ชัด เพื่อให้มั่นใจว่าเศษซากไรฝุ่นจะออกมาหมดแล้ว ซึ่งระหว่างการดูดกำจัดไรฝุ่นด้วยประสิทธิภาพความสามารถของเครื่องกำจัดไรฝุ่นนวัตกรรมพลังน้ำนี้ หากมีการเปิดเครื่องปรับอากาศ ระหว่างทำงานจะช่วยฟอกอากาศในพื้นที่รอบบริเวณ ให้สะอาดกลายเป็นอากาศบริสุทธิ์ไปด้วย แต่ถ้าที่นอนมีคราบเปื้อน รอยด่างดวง ทางทีมงานจะทำการฟอกน้ำยาเกรดพรีเมี่ยม ก่อนที่จะทำการซักฟอกด้วยเครื่องซักระบบ ไฮบริด เอ็กแทรคชั่น ที่มีทั้งระบบน้ำเย็น และ น้ำร้อน เพื่อช่วยในการ ฆ่าเชื้อ และ สลายคราบฝังลึก โดยไม่ส่งผลกระทบใยผ้า ทำการซักฟอกให้ทั่วจนเต็มพื้นที่ เพื่อให้สิ่งสกปรกที่ฝังตัวอยู่ในเส้นใยหลุดออกคืนความสะอาด ขาว ให้กับเส้นใย ทำการดูดเก็บความชื้นที่หลงเหลือ พร้อมผึ่งลม หรือ ตากแดดให้แห้งสนิทก่อนใช้งาน เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา หรือ การเปื้อนซ้ำเป็นคราบจากการใช้งานก่อนเวลาที่เหมาะสม ทำการสเปรย์พ่นชโลมด้วยน้ำยาออแกนิคป้องกันกำจัดไรฝุ่นที่ผลิตจากธรรมชาติ เพื่อปกป้องการนอนหลับพักผ่อน ในช่วงระหว่างก่อนครบกำหนดทำความสะอาดครั้งถัดไป (3-6 เดือน) สุดท้ายนี้ บริการของเรายังมีการอบโอโซน ฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรคในอากาศ เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่อาจลอยฟุ้งกระจายอยู่ในห้อง หรือ สถานที่พักผ่อนอีกด้วย จะเห็นได้ว่าทุกกระบวนวิธีทำงานตามมาตรฐานของเรา มุ่งเน้นตั้งใจให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพราะเราตระหนักดีถึงความรู้สึกของลูกค้าทุกท่านที่ตัดสินใจเลือกใช้บริการของเรา ว่าคาดหวังว่าจะได้รับการดูแล ให้บริการที่ดี และจะมีรอยยิ้มความประทับใจหลังตัดสินใจเลือกใช้บริการจาก KEPT “เพราะเราเป็นมากกว่าแค่การขนย้าย”